คาดตลาดรับสร้างบ้านปี 2558 มีมูลค่าเติบโตขึ้น
ธุรกิจรับสร้างบ้าน เป็นภาคส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการปลูกสร้างบ้านของผู้บริโภค ซึ่งผู้บริโภคย่อมคาดหวังว่าจะได้บ้านที่มีคุณภาพมาตรฐาน และมีราคาต้นทุนการก่อสร้างที่สามารถยอมรับได้ วันนี้ธุรกิจรับสร้างบ้านมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยเพราะสามารถรองรับความต้องการด้านการออกแบบ และการจัดวางพื้นที่ใช้สอยได้ตามความพึงพอใจของลูกค้า มีความสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า อีกทั้งธุรกิจนี้ไม่ได้รองรับเฉพาะเพียงแค่ลูกค้าที่ต้องการปลูกสร้างบ้านใหม่เท่านั้น หากแต่ยังสามารถรองรับกลุ่มลูกค้าในส่วนที่ต้องการซ่อมแซม ปรับปรุง และขยับขยายพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเดิมให้กว้างขวางขึ้น ทำให้ฐานลูกค้าของธุรกิจนี้มีแนวโน้มการเติบโตทางการตลาดที่ดี
ปี 2557 นับเป็นอีกปีหนึ่งที่ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านต้องเผชิญต่อปัจจัยลบรอบด้าน และรุนแรง ทั้งความต้องการสร้างบ้านและกำลังซื้อผู้บริโภคที่ชะงักลง แรงงานขาดแคลนรุนแรง สถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ และค่าจ้างแรงงานที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก ในขณะที่ภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านกลับมีการแข่งขันราคากันต่อเนื่อง ฯลฯ ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ประกอบการรายเล็กที่ไม่มีการรวมตัว หรือสร้างเครือข่ายไว้ก็ยิ่งแข่งขันกับรายผู้นำตลาด หรือรายใหญ่ยากมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหาขาดแคลนแรงงานทีมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสมาคมฯ วิเคราะห์ว่าการจ้าง หรือใช้แรงงานต่างด้าวมาทดแทนแรงงานคนไทยนั้นไม่อาจแก้ไขปัญหาได้อย่างถาวร เหตุเพราะในอนาคตแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้จะเริ่มทยอยกลับคืนถิ่น ฉะนั้น แนวทางการปรับตัวของผู้ประกอบการรับสร้างบ้านที่ดีที่สุดคือ ควรเลือกหาเทคโนโลยีก่อสร้างที่ลดการพึ่งพาแรงงานลง
สำหรับปี 2558 ประเมินแนวโน้มตลาด “บ้านสร้างเอง” ทั่วประเทศคาดว่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวตามทิศทางการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศ โดยคาดว่าจะมีความต้องการสร้างบ้านเองทั่วประเทศใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ในส่วนปริมาณ และมูลค่าตลาดรวม “รับสร้างบ้าน” นั้นมีโอกาสเติบโตได้ตามกัน โดยสมาคมฯ แยกประเมินตลาดรับสร้างบ้านออกเป็น 2 ตลาดหลักๆ ได้แก่ 1.ตลาดรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และ 2.ตลาดรับสร้างบ้านในเขตต่างจังหวัด ทั้งนี้ สมาคมฯ คาดว่าตลาดรับสร้างบ้านต่างจังหวัดน่าจะเป็น “ดาวรุ่ง” โดยเฉพาะเมื่อผู้ประกอบการทั้งรายเดิม และรายใหม่ต่างขยายการให้บริการสร้างบ้านครอบคลุมพื้นที่ต่างจังหวัดของประเทศมากขึ้น ซึ่งภูมิภาคที่น่าจับตาคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ในส่วนของตลาดรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลนั้นมองว่าความต้องการสร้างบ้าน และกำลังซื้อจะยังทรงตัว หรือเติบโตเพียงเล็กน้อย โดยปัจจัยหลักๆ ที่ส่งผลกระทบเกิดจากที่ดินเปล่าลดน้อยลง และมีราคาแพง ฯลฯ ทำให้การสร้างบ้านเดี่ยวส่วนใหญ่ย้ายออกสู่จังหวัดใกล้เคียง เช่น ชลบุรี อยุธยา นครปฐม สมุทรสาคร ราชบุรี สุพรรณบุรี เป็นต้น
ตลาดรับสร้างบ้านอีกหนึ่งภูมิภาคที่น่าจับตาคือ ภาคใต้ ซึ่งในปี 2557 พบว่า ความต้องการสร้างบ้าน หรือกำลังซื้อชะลอตัวลงจากปัจจัยที่มีผลกระทบ ได้แก่ ราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ ซึ่งอันที่จริงแล้วผู้บริโภคส่วนใหญ่ในภูมิภาคนี้นิยมใช้เงินออมสำหรับการสร้างบ้านหลังใหม่มากกว่าการกู้ยืม แต่ด้วยเพราะความไม่เชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ และรายได้ในอนาคต จึงทำให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจสร้างบ้าน หรือที่อยู่อาศัยไว้ก่อน
ดังนั้น ในปี 2558 หากรัฐบาลปัจจุบัน หรือรัฐบาลใหม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาได้ก็เชื่อว่า ปริมาณ และมูลค่ารวมตลาดรับสร้างบ้านในภาคใต้ก็จะฟื้นตัวได้เช่นกัน ด้วยเพราะหลายจังหวัดเป็นเมืองท่องเที่ยว และเมืองการค้าที่สำคัญ เช่น สุราษฎร์ธานี สงขลา ภูเก็ต กระบี่ เป็นต้น