นอกจากการศึกษากรรมวิธีใช้พร้อมทั้งการเลือกสรรแบบถังดับเพลิงให้เหมาะกับชนิดของไฟ แล้ว ความสลักสำคัญของการบำรุงถังดับเพลิงก็เป็นสิ่งจำเป็นเป็นพิเศษในกรณีเกิดเรื่องด่วน เพื่อประสิทธิภาพ ของการดับเพลิงจึงควรดูแลถังดับเพลิงที่อยู่ในสภาพการณ์พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
- ทำความสะอาดถังดับเพลิง พร้อมด้วยอุปกรณ์เสริม (สายฉีดและหัวฉีด) อย่างสม่ำเสมอ
- ตรวจดูสถานภาพข้างนอกของถังดับเพลิง ตัวถังไม่ผุกร่อนหรือขึ้นสนิม สายฉีดไม่แตกหักหรือรั่วซึม
- ไม่จัดตั้งถังดับเพลิงในละแวกที่มีความชุ่มชื้น (บริเวณที่อาจโดนฝน หรือใกล้ซิงค์น้ า ) หรือมีอุณหภูมิสูง (วาง ตากแดด, ใกล้จุดกำเนิดความร้อนต่างๆ หม้อต้มน้ำ เตาอบ เตาหุงต้ม) หรือก่อเกิดความสกปรกได้ง่าย รวมทั้งสำรวจให้ไม่มีเครื่องขัดขวางทางเข้าออก เพื่อให้หยิบฉวยได้ง่าย
- ตรวจดูสลากแบบใช้ ป้ายบอกจุดจัดตั้ง ป้ายแสดงระบุการป้องกัน และคนตรวจสอบ ให้อ่านได้ ชัดเจนตลอด
- ในกรณีที่ใช้ถังดับเพลิงแบบผงเคมีแห้ง ควรหมั่นพลิกถังดับเพลิง คว่ำ หงาย 5-6 ครั้ง เพื่อให้ผงเคมี ข้างในมีการเคลื่อนที่ ไม่จับตัวกันเป็นก้อน อย่างน้อยเดือนละครั้ง
- วิเคราะห์ความดันของถังดับเพลิง ตัดสินว่ายังอยู่ในช่วงที่ระบุจากมาตรวัดความดัน ถ้าเข็มวัดยังชี้ อยู่ในแถบสีเขียวแสดงว่าถังดับเพลิงยังอยู่ในภาวะพร้อมใช้งาน สำหรับถังดับเพลิงแบบที่ไม่มีมาตรวัด ความดันเช่น CO2 ให้ใช้อย่างชั่งความหนักเบา น้ำหนักไม่ควรลดลงมากกว่า 20%
- กรณีที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 5 ปี ควรทำการทดสอบความทนต่อแรงอัดด้วยน้ำ Hydrostatic test แบบมีหนังสือรับรองการทดสอบ เปลี่ยนวาล์ว สายฉีด และเติมผงเคมี
- ในการบรรจุเคมี ควรเลือกคัดบริษัททำบรรจุเคมีดับเพลิง ที่ได้รับอนุญาต มอก. 332 – 2537 ตรวจดู ระดับพละกำลังในการดับเพลิง FIRE RATING ดับได้ในระดับใด ตามที่ได้รับอนุญาตหรือไม่ และ ตรวจดูฉลากรวมถึงการค้ำประกันหลังการบรรจุ สามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับถังดับเพลิงได้ที่ http://www.harn.co.th/fire-protection-ดับเพลิง/