ธุรกิจก่อสร้างจัดเป็นอุตสาหกรรมที่สาคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เป็นรากฐานที่สาคัญในการพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรือง เป็นธุรกิจที่มีอนาคตดี โดยเฉพาะภาคเอกชน ต่อการรุกตลาดต่างประเทศของผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างไทยหลายรายที่มีศักยภาพยังประสบปัญหาบางประการ เช่น ด้านเงินทุน คือขาดแคลนหลักทรัพย์ค้าประกัน หรือขาดเงินทุนหมุนเวียน ด้านการตลาดคือ การขาดข้อมูลดครงการก่อสร้าง รวมไปถึงขาดการศึกษาลู่ทางการตลาด ความเสียเปรียบด้านภาษา กฎเกณฑ์ของแต่ละประเทศ ขาดความช่วยเหลือจากภาครัฐ คือไม่มีความชัดเจนในนโยบายการสนับสนุนในระบบกระบวนการพัฒนาทั้งด้านสังคมและด้านเศรษฐกิจของประเทศทั้งหลายทั่วโลก ธุรกิจก่อสร้างเป็นธุรกิจสาคัญธุรกิจหนึ่งที่สามารถขับเคลื่อนภาวะเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ อย่างได้ผลอีกทั้งการจะวัดว่าเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆอยู่ในภาวะขาขึ้นหรือขาลง ก็ดูได้จากการเจริญเติบโตของธุรกิจก่อสร้างนั้น
สำหรับประเทศไทย ผู้ประกอบธุรกิจก่อสร้างและการประกอบธุรกิจก่อสร้างมีความเกี่ยวพันกับเศรษฐกิจของประเทศไทยค่อนข้างชัดเจน เนื่องจากธุรกิจก่อสร้างทำให้เกิดการจ้างงานเป็นจำนวนมาก ธุรกิจก่อสร้างยังเชื่อมโยงไปตั้งแต่โรงงานระดับล่าง เช่น คนงานก่อสร้างทุกระดับชั้น ไปจนระดับสูง เช่น สาขาวิชาชีพวิศวกร และวิชาชีพสถาปนิก เกี่ยวพันไปถึงธุรกิจค้าขายวัสดุก่อสร้างทุกประเภท ทำให้มีกาลังในการจับจ่ายใช้สอย ทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจตามมา และช่วยพัฒนาประเทศ หากธุรกิจก่อสร้างได้รับผลกระทบไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม หรือมีการลดขนาดหรือลดจำนวนของธุรกิจก่อสร้างลง เพราะขาดการสนับสนุน ขาดการดูแลเอาใจใส่จากภาครัฐอย่างจริงจัง การหดตัวของธุรกิจก่อสร้างจะส่งผลกระทบกับความเชื่อมั่นของโรงงานก่อสร้างจะส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน การพัฒนาการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน สะพาน ทางระบายน้ำสาธารณะหรือการปรับปรุงการก่อสร้างของอาคารเพื่อใช้พลังงานทดแทน ยังเป็นการสร้างอนาคตและขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ประเทศที่มีการพัฒนาที่ยั่งยืน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโดยธุรกิจก่อสร้างยังก่อให้เกิดรายได้แก่อุตสาหกรรมต่อเนื่องผู้ผลิตวัตถุดิบและวัสดุก่อสร้าง รวมถึงพ่อค้าคนกลาง ผู้ประกอบการผู้เชี่ยวชาญ และธุรกิจการให้บริการติดตั้งไฟ อีกทั้งธุรกิจสถาบันการเงิน ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การให้เช่าที่อยู่อาศัยสละอาคารตลอดจนธุรกิจให้คำปรึกษาในการลงทุนและกฎหมายด้วย